หนาวนี้ไปภูทับเบิกกัน

           ภูทับเบิก เพชรบูรณ์ อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวประเทศไทยน่าไปเยือน เพราะมีวิวทะเลภูเขาที่สวยงามชวนไปสัมผัส

           สายลมเย็น ๆ พัดเอื่อย ๆ ชวนให้นึกถึงภาพบรรยากาศทิวเขาสูงซับซ้อน ทอดตัวยาวสุดลูกหูลูกตา แหม ๆ ๆ ว่าแล้วเราก็นำพาตัวเองไปสัมผัสความรื่นรมย์ที่ว่ากันดีกว่า และสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย ที่จะไปท่องเที่ยว ก็คือ "ภูทับเบิก" จังหวัดเพชรบูรณ์  นั่นแน่ ! อยากไปเที่ยวแล้วใช่มั้ย ตามเข้ามาเลยค่ะ... 

          ภูทับเบิก เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์ ตั้งอยู่ที่บ้านทับเบิก ตำบลวังบาล ห่างจากอำเภอหล่มเก่า 40 กิโลเมตร ตามเส้นทางจากหล่มเก่าไปภูหินร่องกล้า หรือห่างจากตัวจังหวัดเพชรบูรณ์ประมาณ 90 กิโลเมตร ภูทับเบิก มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,768 เมตร เป็นจุดที่สูงที่สุดของเพชรบูรณ์ มีสภาพภูมิประเทศที่สวยงามด้วยธรรมชาติแบบทะเลภูเขา มีอากาศบริสุทธิ์ สภาพภูมิอากาศเย็นสบายตลอดปี เนื่องจากร่องลมเย็นจากเทือกเขาหิมาลัยและอยู่บนที่สูงจึงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล โดยช่วงเช้าจะมองเห็นกลุ่มเมฆ และทะเลหมอกตัดกับยอดเทือกเขาเพชรบูรณ์   

    

          ปัจจุบัน ภูทับเบิก เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง ซึ่งได้อพยพมาอาศัยอยู่ที่บ้านทับเบิก หมู่ที่ 14 และหมู่ที่ 16 โดยอยู่ในความดูแลของศูนย์พัฒนาสงเคราะห์ชาวเขาจังหวัดเพชรบูรณ์ ประกอบด้วยอาชีพทำการเกษตรแบบขั้นบันไดตามเชิงเขา ในช่วงปลายฝนต้นหนาว จะพบเห็นไร่กะหล่ำปลีอยู่สองข้างถนนสู่ทับเบิกสวยงาม ในราวเดือนธันวาคม-มกราคม จะมี ดอกซากุระ หรือ นางพญาเสือโคร่ง สีชมพูบานสะพรั่งไปทั้งภูเขา 

          นอกจากนี้ ในยามค่ำคืนยังมองเห็นแสงไฟระยิบระยับจากบ้านเรือนในอำเภอหล่มสัก ที่อยู่เบื้องล่าง เปรียบได้กับ"ดาวบนดิน" จากสภาพดังกล่าว ทำให้ภูทับเบิกเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และดึงดูดนักท่องเที่ยวที่นิยมสัมผัสบรรยากาศที่หนาวเย็น วิถีชีวิตชาวเขา และแหล่งธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ภายใต้คำกล่าวที่ว่า "นอนทับเบิก สัมผัสความหนาว ดูดาวบนดิน" โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวก บริเวณหมู่บ้านทับเบิกและจุดชมวิว มีบ้านพัก เต็นท์ และร้านอาหารเปิดบริการแก่นักท่องเที่ยว                        

20 ร้านขนมหวานน่ารัก!

20 ร้านขนมหวานน่ารัก

1. White Coffee

White Coffee ร้านกาแฟชื่อดังจากเมืองลำปาง เพิ่งขยายสาขามาให้ชาวกทม.ได้ลิ้มลองเมื่อไม่นานมานี้เอง เค้กที่นี่จะเป็นสไตล์ฝรั่งเศส แต่งหน้าตาอย่างสวยงาม อบกันสดๆใหม่ๆจากหลังบ้านตรงนั้นเลย รสชาติเข้มข้น แต่ไม่หวานมาก กำลังพอดี   
ที่ตั้ง: ซอยงามวงศ์วาน 48 (ตรงข้ามม.เกษตร)
ร้านเปิด: อังคาร - อาทิตย์ เวลา 10.00 - 22.00 น. (หยุดวันจันทร์)

2. Cat Up Cafe

Cat Up Cafe คาเฟ่แมวน่ารักๆ ที่คนรักแมวไม่ควรพลาด ร้านนี้เค้ามีถึงสองชั้นให้เลือกนั่ง แถมด้วยบรรดาน้องแมวอีกเพียบ เรียกได้ว่าแทบทุกซอกทุกมุมของทางร้านเลยก็ว่าได้ นั่งทานขนมไปพลาง เล่นกับน้องแมวไปพลางก็เพลินๆดีค่ะ     
ที่ตั้ง: The Up พระราม 3
ร้านเปิด: ทุกวัน เวลา 12.00 - 21.00 น.

3. Two Spoons Tale

Two Spoons Tale ค่าเฟ่น่ารักๆ สไตล์ญี่ปุ่น ตกแต่งด้วยต้นกระบองเพชรเรียงราย แถมมึมุมขายของกระจุกกระจิกให้ติดไม้ติดมือกลับบ้านไปด้วยกัน ที่โดดเด่นยิ่งกว่านั้นคือเจ้าเครื่องดื่ม 3D Latte Art ที่ใช้ฟองนมมาทำเป็นตัวการ์ตูนนูนเด่นขึ้นมานี่เอง 
ที่ตั้ง: โครงการสุโขทัยอเวนิว เมืองทองธานี
ร้านเปิด: พุธ - ศุกร์ เวลา 12.00 - 20.00 น. / เสาร์อาทิตย์ เวลา 11.00 - 20.00 น. 

4. Charlie Brown Cafe

Charlie Brown Cafe ร้านนี้สำหรับเหล่าบรรดาสาวก Snoopy เลยค่ะ ขนมทุกอย่าง รวมทั้งของตกแต่งล้วนแล้วแต่เป็นเจ้าตัวการ์ตูนเรื่องนี้ทั้งสิ้น ใครชอบถ่ายรูปแนะนำให้มาร้านนี้ได้เลยค่ะ เค้ามีมุมน่ารักๆให้เลือกถ่ายกันเพียบ 
ที่ตั้ง: เมกะ บางนา (ติดกับโซน IKEA)
ร้านเปิด: ทุกวัน เวลา 10.00 - 22.00 น.

5. Pan Cafe

Pan Cafe คาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นใจกลางกรุง เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับสถานที่ตั้งอย่างย่านสีลม เมนูที่นี่จะเน้นไปที่พวกขนมปัง เครปต่างๆ และแพนเค้ก มีทั้งแบบนั่งทานในร้านชิลๆ และแบบ To Go ที่เหมาะสำหรับคนทำงานที่กำลังเร่งรีบ
ที่ตั้ง: ชั้น G อาคารสีลม 64 (BTS ศาลาแดง) 
ร้านเปิด: จันทร์ - ศุกร์ เวลา 07.00 - 21.00 น. / เสาร์อาทิตย์ เวลา 12.00 - 21.00 น. 

ุ6. Audrey Cafe' des Fleur

Audrey Cafe' des Fleur ร้านอาหารที่ให้บรรยากาศเสมือนนั่งทานอยู่ในสวนดอกไม้ ขนมที่นี่ก็จะเน้นทำออกมาให้เข้ากับบรรยากาศของทางร้านเช่นกัน เป็นอีกร้านนึงที่บรรยากาศดี เหมาะอย่างยิ่งกับการมาเดทกับคนรู้ใจ
ที่ตั้ง: The EmQuartier โซน Helix ชั้น 8
ร้านเปิด: ทุกวัน เวลา 10.00 - 22.00 น.

ึ7. Pain Perdu

Pain Perdu หรือแปลว่าเฟรนช์โทสต์ในภาษาฝรั่งเศส ดังนั้นเมนูแนะนำของที่นี่ก็คงหนีไม่พ้นเจ้าตัวขนมปังที่ว่านี้นี่เอง ร้านค่อนข้างเล็ก มีที่นั่งเพียงไม่กี่โต๊ะเท่านั้น แต่บริการการดี (เจ้าของมาเอง) แถมมีฟรี wifi ด้วย   
ที่ตั้ง: เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 7
ร้านเปิด: ทุกวัน เวลา 10.00 - 22.00 น.

8. Vanilla Brasserie

Vanilla Brasserie คาเฟ่สไตล์ฝรั่งเศส เข้าไปข้างในจะมี 2 ชั้น ตกแต่งด้วยโทนสีขาวดำออกแนวเรียบหรู เมนูหลักของที่นี่คือเครปหน้าต่างๆ ทั้งแบบคาวและแบบหวาน โดยเค้าจะทำกันสดๆตรงหน้าร้านนั่นเลย 
ที่ตั้ง: สยามพารากอน ชั้น G 
ร้านเปิด: ทุกวัน เวลา 10.00 - 22.00 น.

9. Signature Dessert Cafe

Signature Dessert Cafe ร้านของหวานน่านั่งย่านปิ่นเกล้า ร้านกว้างขวาง บรรยากาศสบายๆ เมนูที่นี่มีให้เลือกเยอะมาก น่าทานไปซะหมดทุกอย่าง แถมเสิร์ฟมาอย่างจัดเต็ม
ที่ตั้ง: The Sense ปิ่นเกล้า
ร้านเปิด: อาทิตย์ - พฤหัส เวลา 11.00 - 22.00 น. / เสาร์อาทิตย์ เวลา 11.00 - 23.00 น. 

10. Soft Cream Cafe 

Soft Cream Cafe ร้านไอศกรีมน่านั่ง ตกแต่งร้านด้วยกระจกใสรอบด้าน ให้อารมณ์สบายๆ แถมคนไม่พลุกพล่าน  มี wifi บริการฟรี ส่วนไอศกรีมก็รสชาติดี (แต่ราคาแอบสูงไปนิด)     
ที่ตั้ง: I'm Park ชั้น 3 ซอยจุฬา 22
ร้านเปิด: ทุกวัน เวลา 11.00 - 21.00 น.

11. Zon & Soya brew kafe'

Zon & Soya brew kafe' คาเฟ่ชิลๆ ที่แอบซ่อนตัวอยู่ในซอยทาวน์ อิน ทาวน์ บรรยากาศสงบๆ เปิดเพลงเพราะ และยังมีทั้งอาหารคาวและหวานให้บริการตั้งแต่เช้าตรู่ 
ที่ตั้ง: Town in Town ซอย 12
ร้านเปิด: ทุกวัน เวลา 07.00 - 20.00 น.

12. Gram Gourmet

Gram Gourmet ร้านเดียวกับ Gram Cafe' ตรงสุขุมวิท 49 ร้านนี้เค้าเสิร์ฟเมนูอาหารเช้าทั้งวัน อาหารที่นี่เลยจะเบาๆ ทานง่ายๆ อย่างพวกสลัด โยเกิร์ต และแพนเค้กหน้าต่างๆที่มีให้เลือกมากมาย 
ที่ตั้ง: The EmQuartier โซน Helix ชั้น 7
ร้านเปิด: ทุกวัน เวลา 10.00 - 22.00 น.

13. Royal Sugar 

Royal Sugar ร้านขนมและชาสไตล์อังกฤษ เดินผ่านแล้วโดดเด่นเตะตามาก ด้วยความที่ร้านตั้งอย่างเปิดโล่งตั้งอยู่กลางห้างนั่นเอง แต่ขนมที่นี่ราคาค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับปริมาณ
ที่ตั้ง: ชั้น 1 เมกะ บางนา 
ร้านเปิด: ทุกวัน เวลา 10.00 - 22.00 น.

14. Hokkaido Silkream 

Hokkaido Silkream ร้านขนมสไตล์ญี่ปุ่น ที่เสิร์ฟทั้งเมนูของหวานอย่างซอฟท์ครีม แพนเค้ก และเครปหน้าต่างๆ รวมทั้งอาหารเบาๆอย่างพวกเบอร์เกอร์และแซนวิชก็ด้วย
ที่ตั้ง: สยามพารากอน ชั้น G
ร้านเปิด: ทุกวัน เวลา 10.00 - 22.00 น.

15. กับข้าวกับปลา by Iberry

กับข้าวกับปลา เป็นร้านอาหารในเครือเดียวกับ Iberry ร้านไอศกกรีมโฮมเมดเจ้าดัง ดังนั้นร้านนี้จึงมีทั้งอาหารคาวสไตล์ฟิวชั่น และของหวานต่างๆให้เลือกมากมาย ชอบไอศกรีมร้านนี้ตรงที่มีรสแปลกๆให้เลือกเยอะดี แถมรสชาติเข้มข้น อย่างพวกผลไม้ก็จะมีเนื้อผสมลงไปด้วย
ที่ตั้ง: Market Place ทองหล่อ
ร้านเปิด: ทุกวัน เวลา 10.30 - 23.00 น.

16. Coffee D.I.Y.

Coffee D.I.Y. ร้านกาแฟน่ารักๆอีกร้านนึง  เมนูขนมของที่นี่จะมีให้เลือกเพียงไม่กี่อย่าง โดยเมนูต่างๆจะทำมาจากขนมปังทั้งสิ้น อย่างขนมปังเนยนม ขนมปังสังขยา แซนวิชทูน่า ขนมปังไส้กรอกลาวา เป็นต้น
ที่ตั้ง: เหม่งจ๋าย (ตรงข้ามศูนย์โตโยต้า)
ร้านเปิด: จันทร์ - เสาร์ เวลา 08.00 - 19.00 น. (หยุดวันจันทร์)

17. Unna Cake

Unna Cake ร้านเค้กราคาเบาๆ ย่านใจกลางเมือง ขนมและเครื่องดื่มที่นี่ราคาไม่แพง แถมซื้อหลายชิ้นมีส่วนลดให้อีกด้วย (ชิ้นละ 45 บาท / 3 ชิ้น 120) แถมถ้าใครนั่งทานในร้าน เค้ามีท๊อปปิ้งซอสวางอยู่ทุกโต๊ะให้เติมเองได้ฟรีๆแบบไม่อั้นด้วยนะคะ 
ที่ตั้ง: I'm Park ชั้น 2 ซอยจุฬา 22
ร้านเปิด: ทุกวัน เวลา 10.00 - 22.00 น.

18. Kelly By Audrey 

Kelly By Audrey ร้านบรรยากาศสบายๆ คนไม่พลุกพล่าน มีทั้งอาหารคาวแนวฟิวชั่น และของหวานต่างๆมากมายให้เลือกสรร ถ้าวันไหนโชคดีหน่อย ที่นี่เค้าจะชอบมีโปรโมชั่น 1 แถม 1 กันเป็นประจำ คุ้มสุดก็ตรงนี้นี่แหละ
ที่ตั้ง: เอสพลานาดรัชดา
ร้านเปิด: ทุกวัน เวลา 10.00 - 22.00 น.

19. Tribeca Restobar

Tribeca Restobar ร้านอาหารตกแต่งสไตล์นิวยอร์ค ออกแนวโมเดิร์น บรรยากาศน่านั่ง ที่นี่เค้าเน้นคอนเซ็ปต์ All Day Brunch ดังนั้นเลยมีอาหารเช้าสไตล์อเมริกันบริการกันทั้งวัน และนอกเหนือจากเมนูอาหารคาวแล้ว ของหวานของที่นี่ก็น่าทานไม่แพ้กันเลย  
ที่ตั้ง: โครงการ Nihonmura Mall ทองหล่อ 13
ร้านเปิด: ทุกวัน เวลา 09.00 - 24.00 น.

20. Vanilla Bakeshop 

Vanilla Bakeshop อีกร้านนึงในเครือ Vanilla สาขานี้จะเป็นครัวเปิดโล่งให้เห็นการทำทุกขั้นตอน แถมยังมีพวกอุปกรณ์และวัตถุดิบให้เลือกซื้อติดไม้ติดมือกลับไปกันอีกด้วย
ที่ตั้ง: เอกมัย 12
ร้านเปิด: ทุกวัน เวลา 10.00 - 22.00 น.

มนต์นมสด

มนต์นมสด

เวลา เปิด-ปิด
จ-อา 14.00-23.00 น.
ข้อมูลติดต่อ : 160/1-3 ถ.ดินสอ ต.เสาชิงช้า พระนคร กรุงเทพมหานคร 10200

ร้านประจักษ์เป็ดย่าง บางรัก

 ประจักษ์เป็ดย่าง บางรัก

ภาพจาก prachakrestaurant.com

         ร้านอาหารเก่าแก่ที่ก่อตั้งมากว่า 100 ปี เปิดขายกันมากว่า 3 รุ่น ตัวร้านเป็นตึกขนาดหนึ่งคูหา เปิดให้บริการอาหารไทย-จีน ตั้งแต่ปี 2452 ซึ่งเคล็ดลับของร้าน คือ การคัดเป็ดเชอร์รี่เกรดดี นำมาผ่านกรรมวิธีหมัก เครื่องเทศ แล้วย่างในอุณหภูมิที่เหมาะสม สำหรับเมนูอาหารที่มีชื่อเสียง ได้แก่ เป็ดย่าง, หมูแดง, หมูกรอบ ส่วนเมนูยอดนิยม ได้แก่ ข้าวหน้าเป็ด, ข้าวหมูแดง, ข้าวหมูกรอบ, ข้าวเฉโป, บะหมี่เป็ด, บะหมี่หมูแดง, เกี๊ยวหมู และเกี๊ยวกุ้ง นอกจากนี้ ยังมีอาหารไว้บริการทั้ง ข้าวผัด, ราดหน้า, โกยชีหมี่ เป็นต้น รวมถึงมีเมนูใหม่อย่าง เป็ดย่างสุญญากาศ ที่คงความอร่อยของเป็ดให้ยาวนานมากขึ้นอีกด้วย

         เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 09.00-20.00 น.
         ที่อยู่ : 1415 ถนนเจริญกรุง แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ
         โทรศัพท์ : 0 2234 3755, 08 3910 1444
         เว็บไซต์ : prachakrestaurant.com และ เฟซบุ๊ก Ped Prachak

บะหมี่ไข่ลุงเฉื่อย เอกมัย 19

บะหมี่ไข่ลุงเฉื่อย ใครที่มาเที่ยวย่านดังอย่างเอกมัยแล้วไม่ได้กินบะหมี่ไข่ของร้านลุงเฉื่อย ถือว่าไปไม่ถึง ด้วยรสชาติของก๋วยเตี๋ยวทั้งเส้นบะหมี่ที่หอม น้ำซุปรสเข้มข้นพิเศษใส่ไข่ต้มยางมะตูม ยิ่งเพิ่มอรรถรสในการรับประทานบะหมี่ของคุณค่ะ 

ที่อยู่ : ซอยเอกมัย 19 อาคาร บริเวณปากซอยเอกมัย 19 ถนนสุขุมวิท 63 (เอกมัย) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ

วันและเวลาเปิดปิดทำการ : อังคาร-อาทิตย์ 20.00-04.00 น. (หยุดวันจันทร์)